วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

โทษของการดูหมอ (แล้วแต่ใช้วิจารณญาณ)

การดูหมดเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งที่เรามักชอบและนำมาปฏิบัติบางครั้งอาจทำให้ชีวิตดีขึ้นแต่บางครั้งกับทำให้ชีวิตแย่ลงกว่าเดิม
ส่วนผู้ที่มาดูก็ไม่ได้ผลเป็นความพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง เพราะว่า ถ้าหมอเขาดูว่าชะตาไม่ดีเราก็เสียใจ เป็นห่วงเป็นใยตัวเอง ดีไม่ดีก็ต้องเชื่อหมอว่าต้องสะเดาะเคราะห์ อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ถ้าหมอว่าดี จะดี ก็ลิงโลด ดีอกดีใจ ประมาทต่อไป
แท้ที่จริงแล้ว คนจะดีหรือไม่ดี ไม่ต้องดูหมอ ถ้าทำไม่ดี ดูหมอ เอาหมอมาเรียงตั้งแต่นี้ไปถึงกรุงเทพฯ ก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่ถ้าทำดี ไม่ต้องมีหมอเลยสักหมอเดียวก็ดี
แต่บางครั้ง บางท่าน อาจจะนึกว่า เอ๊ะเดี๋ยวนี้ก็ทำดีแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลดี หรือว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้อยู่ กรรมเก่ายังไงล่ะ กำลังให้ผล หมอก็ช่วยไม่ได้ ถ้าหมอช่วยได้ พระพุทธเจ้าก็ไม่ต้องมาสอนให้เรามาปฏิบัติธรรมกันหรอก เพราะฉะนั้น เรื่องดูหมอนี่ เกือบไม่มีผลเลยในชีวิต ถ้าคนที่มีปัญญา เพราะจะดีหรือชั่วอยู่ที่เราทำ เราทำดี ทานกุศล ศีลกุศล ภาวนากุศล หมอดูทำอะไรไม่ได้ ดูก็ไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องไปศักดิ์สิทธิ์อะไร
พูดเรื่องนี้มาก็วกมาถึงเรื่องที่เรามาศึกษา ปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ เพื่อกระทำคุณความดีให้เกิดความเจริญ และสันติสุข และพ้นทุกข์
เราถามตัวเองก่อนว่า ดูหมอช่วยให้พ้นทุกข์ได้ไหม ทั้งผู้ดู หมายถึงผู้ที่เป็นหมอ และผู้มาขอให้ดูนั่นแหละใช่ไหมทางพ้นทุกข์
คนเราจะทุกข์ หรือจะสุข จะดีหรือจะชั่ว ก็อยู่ที่กรรม คือการกระทำของเราเท่านั่นเอง ไม่มีอะไรอื่น มีเท่านี้แหละ ไม่ต้องไปหาอะไร ทำดีก็สบาย ทำไม่ดีก็ไม่สบาย มีเท่านี้ ให้เรามารู้ตรงนี้ มีหลักตรงนี้ แล้วสบาย นี้ในเรื่องของที่กล่าวว่า การดูหมอ
แม้กระทั่งไปถึง การใบ้หวย การพนัน เวลาเล่นไปแล้วผีสิงนะเหมือนผีสิงนะ เล่นอะไรก็ติดไอ้นั่นแหละ เล่นไพ่ติดไพ่ เล่นหวยติดหวย ซื้อลอตเตอรี่ติดลอตเตอรี่ ทั้งๆ ที่รู้ก็ยังแกะไม่ออก เพราะฉะนั้น เป็นประเภทผีสิงนะ อบายมุขนะ หนักพอๆ กันกับยาเสพติด

บทความนี้ได้มาจาก พระราชญาณวิสิฐ (หลวงป๋า)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น